หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ตำนานศพที่13

       
..............ตำนานศพที่ 13 Concept ...................

บันทึกลับดังต่อไปนี้ ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เรื่องราวที่ถูกบันทึกในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ถูกปิดเงียบโดยเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ และที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปิดคดีนี้ได้

มันได้เริ่มถูกบันทึกเมื่อวันที่ 13/01/95 (2538) มันเป็นเรื่องราวของฆาตกร 13 ศพ ถูกบันทึกโดยผู้ซึ่งฆาตกรเป็นผู้บอกกล่าว

?เขา เป็นคนทำ เป็นคนลงมือ ไม่ว่าเขาจะตั้งใจหรือไม่ แต่เมื่อดูในแววตาที่เฉยชาของเขาแล้ว รู้สึกได้ว่า เขาพอใจในการกระทำ?
?ทุกๆ ศพที่เขาฆ่า เขาบอกกับผม ถึงความรู้สึก และบรรยากาศ?
?แต่ศพสุดท้าย เขาไม่ได้บอก?

ศพที่ 1 ใช่ มันเป็นการพลั้งมือ เพราะเขาไม่ได้เป็นฆาตกรโดยกำเนิด แต่ดูเหมือนเขากำลังเรียนรู้อยู่ อารมณ์ที่โมโหร้ายของเขา ทำให้พี่สาวของเขาตาย มีดปลายแหลมที่คมกริบ แทงเพียงครั้งเดียวเข้าทรวงอก เหตุจากความไม่ลงลอยกันขั้นรุนแรง เขาเสียใจที่ทำ แต่ดูเหมือนเขาจะค้นพบอะไรบางอย่างในจิตใต้สำนึก แต่มันก็เพียงศพแรกของเขา และเป็นพี่สาวของตัวเอง จึงทำให้เขารู้สึกผิด แต่เขาก็ได้นำศพไปฝังโดยที่ไม่มีใครรู้

ศพที่ 2 เป็นศพที่เขาตั้งใจฆ่า มันเป็นความริษยาของตัวเขาเอง รายนี้เป็นเพื่อนของเขาเอง ดูจากภายนอกทุกคนจะคิดว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกัน แม้แต่ผมก็คิดเช่นนั้น แต่ในใจของเขามีแต่ความอิจฉาริษยา เพราะเพื่อนคนนี้ เหนือกว่าเขาในทุกๆ ด้าน แต่เขาก็เสแสร้งทำดีกับเพื่อน เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่ง เขาจะมอบความเจ็บปวดและความตายให้กับเพื่อนคนนี้ มีดเล่มเดิม เขาได้ใช้มันอีกครั้ง กับเพื่อนของเขา เขาแทงอย่างเมามัน เหมือนกับว่านั่นคือศัตรู แต่จริงๆ คือเพื่อนที่ไม่เคยทำร้ายเขาเลย

ศพที่ 3 มันเป็นการตอกย้ำในความรู้สึกที่อยากจะฆ่า มันเริ่มฝังรากลึกลงในจิตใจแห่งฆาตกร หลังจากที่เขานำศพของเพื่อนเขาไปฝัง เพื่ออำพรางคดี เขาได้ไปหาแฟนสาวของเพื่อนที่เขาเพิ่งฆ่าไป ซึ่งผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่เขาเคยชอบ เขาต้องการมอบความรักอย่างเจ็บปวดให้กับเธอ เขาชวนเธอไปเที่ยวตามประสาเพื่อน โดยที่เธอยังไม่รู้ว่าคนรักของเธอตายไปแล้วด้วยน้ำมือของเขา หลังจากที่เขามอมยาเธอ เธอก็หมดสติไป แต่เมื่อเธอฟื้นขึ้นมา ก็พบว่ากำลังถูกมัดแขนขาอยู่กับเตียง ในห้องแห่งหนึ่ง และร่างกายของเธอก็เปลือยเปล่า เธอเห็นเขายืนอยู่ที่ปลายเตียง แล้วเขาก็พูดว่า ?สวัสดี? หลังจากนั้นเขาก็เล่าให้เธอฟังถึงคนรักของเธอว่าตายอย่างไร แล้วเขาก็ให้ยาหลอนประสาทเธอกิน เขาใช้มีดเล่มเดิม กรีดเบาๆ ตั้งแต่หน้าอกลงมา เลือดไหลซิบๆ แต่ด้วยฤทธิ์ยา เธอเซื่องซึม ไม่รู้สึกเจ็บ แต่ทันใดนั้น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้น เมื่อเขากดมีดลงไปแล้วกรีดลงมา เธอตาย แล้วเขาก็นำศพเธอไปฝังกับคนรักของเธอ ?รักกันนานๆนะ? แล้วเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข

เขาเริ่มบ้าต่อความตาย เริ่มหาเหยื่อเหมือนกับว่าเป็นสัตว์ร้ายออกล่าเหยื่อ เขาอยากทำอีก เขาพยายามหาเหยื่อที่ไม่รู้จักบ้าง เพราะอยากรู้ว่าตัวเองจะรู้สึกอย่างไรกับการฆ่าคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน และแล้วเขาก็ได้พบจริงๆ ทันทีที่เห็น เขารู้สึกได้เลยว่าพวกมันจะต้องตาย ชายหญิงสองคู่ได้มาเที่ยวกลางป่า บริเวณที่เขากบดานอยู่ เขาเห็นภาพอันอุจาดตา ที่ชายหญิงสองคู่นั้นกำลังปฏิบัติกันอยู่กลางป่า และในคืนนั้นชายหญิงกลุ่มนั้นก็หลับสนิทด้วยความเพลีย เขาเดินดูรอบๆ ที่ที่ชายหญิงกลุ่มนั้นนอนอยู่ เขามองอยู่นานเพราะใจจริงอยากจะฆ่าตอนที่ตื่นอยู่มากกว่า แต่เหยื่อมีถึงสี่คน ฉะนั้นเขาจึงต้องลงมือตอนหลับ ขวานด้ามใหญ่ถูกนำมาใช้ครั้งแรก เขาสับขวานลงไปที่คอของชายคนแรก หัวหลุดอย่างเงียบๆ อีกสามคนไม่มีใครรู้สึกตัว และการสับครั้งที่สอง ทำให้หัวของชายคนที่สองหลุด แล้วก็ตามด้วยหญิงคนที่สาม หัวหลุดเช่นกัน ตอนนี้เหลือแต่หญิงคนสุดท้าย เขายังไม่ฆ่า ปล่อยให้นอนกับเพื่อนอีกสามคนที่ไม่มีหัวจนถึงเช้า เสียงกรีดร้องดังขึ้น มันบ่งบอกว่าเช้าแล้ว เขาจึงไปหาเธอ หญิงคนนั้นกำลังตกใจสุดขีด แล้วเขาก็ปลอบขวัญเธอด้วยขวาน เขาเฉาะเข้าที่หน้าอกของเธอ แล้วก็สับลงที่คอ หัวหลุด เพื่อไม่ให้เป็นการน้อยหน้าเพื่อนทั้งสาม และนั่นก็คือ ศพที่ 4 ศพที่ 5 ศพที่ 6 และศพที่ 7 ของเขา

เขาบอกผมว่า นั่นเป็นการฆ่าคนที่ไม่รู้จักกันครั้งแรก ความรู้สึกก็ธรรมดา คิดว่าฆ่าคนที่รู้จักจะรู้สึกดีกว่า แต่เขาก็อยากจะลองดูอีกสักครั้ง เขาจึงกลับเข้าไปในเมืองเพื่อหาเหยื่อที่น่าจะตาย ในขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้รับแจ้งเหตุจากญาติของหนุ่มสาวทั้งสองคู่ จนเจ้าหน้าที่ติดตามหาหนุ่มสาวทั้งสี่พบ ซึ่งอยู่ในสภาพที่น่าสะอิดสะเอียน เจ้าหน้าที่ปิดข่าวเงียบ แต่ก็ได้ออกติดตามตัวคนร้าย

หลังจากที่เขาเข้ามาในเมืองแล้ว เขาได้เข้าไปในบาร์แห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและหญิงบริการ ได้เห็นชายผู้หนึ่งรูปร่างท้วมท่าทางเป็นคนรวยลักษณะอวดเบ่ง กำลังพาหญิงบริการคนหนึ่งออกไป คงจะพากันไปเสพสมกันแน่ เขาจึงได้ติดตามไปจนพบบ้านหลังใหญ่ คงเป็นบ้านของชายผู้นั้น สงสัยเมียคงไม่อยู่เลยกล้าพาหญิงอื่นเข้าบ้าน เขาได้แอบปีนรั้วเข้าไป และก็ปีนขึ้นไปตรงหน้าต่างที่มีแสงไฟสว่าง เขาแอบอยู่ที่หน้าต่างสักพัก เมื่อทั้งสองปฏิบัติกามเสร็จก็หลับไป เขาจึงย่องเขาไปในห้อง แล้วก็ใช้มีดเสียบลงไปตรงหน้าอกของชายผู้นั้น เสียงร้องดังลั่น ผู้หญิงจึงตื่น แต่ก็ถูกเขาจัดการมัดมือเท้าและปิดปาก แล้วเขาก็ ทำการคว้านเครื่องในของชายผู้นั้นต่อหน้าเธอ เขานำลำไส้เล็กมาคล้องคอเธอ เธอคงช๊อคมาก สายตาของเธอพยามอ้อนวอนขอร้องว่าอย่าทำเธอเลย เมื่อมีความสุขได้ที่แล้ว เขาก็นำมีดเสียบเข้าไปในช่องคลอดของเธอ แล้วดึงออกมาพร้อมกับสายเลือดที่แดงสด เธอเจ็บมากแต่ไม่สามารถร้องได้ เขาก็นั่งดูเธอ ดูสายเลือดที่ไหลออกมาเรื่อยๆ จนตัวเธอซีด เธอตาย คืนนั้นเป็น ศพที่ 8 และศพที่ 9 ของเขา

ทางด้านเจ้าหน้าที่ที่กำลังติดตามคดีอยู่ ก็ได้ผูกเรื่องศพทั้งสี่ในป่า กับสองศพในบ้านเข้าด้วยกัน คิดว่าต้องเป็นฆาตกรคนเดียวกันแน่ เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งได้แกะลอยจนรู้ว่า ฆาตกรคือใคร เพราะได้ผูกเรื่องก่อนหน้านี้ ทั้งพี่สาวของฆาตกรและเพื่อนของเขาที่หายตัวไป ซึ่งจริงๆได้ถูกเขาฆ่าและฝังไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงหาศพไม่พบ เขาเริ่มที่จะรู้ตัวแล้วว่ากำลังถูกเจ้าหน้าที่ผู้นั้นติดตามอยู่ เขาจึงไม่รีรอที่จะกระทำการฆ่า

ผมคิดว่าเขามีพรสวรรค์ในการฆ่าคนมาก แม้แต่เจ้าหน้าที่ที่เก่งๆ ผู้นี้ยังต้องเป็น ศพที่ 10 ของเขาเลย ในบ้านของเจ้าหน้าที่ผู้นั้น ซึ่งยังไม่ทันจะควักปืนออกมา ก็ถูกเขาเสียบเข้าที่ด้านหลังนับสิบแผล แล้วเขาก็จัดการแยกชิ้นส่วนแขน ขา หัวออกจากกัน เพื่อให้คนอื่นๆ รู้ว่า อย่ามายุ่งกับเขา และเช้าวันรุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์ก็พาดหัวข่าวเรื่องเจ้าหน้าที่ตายอย่างสุดโหด เขาไม่ค่อยพอใจที่เป็นข่าวขึ้นมา ถึงแม้หนังสือพิมพ์จะไม่รู้เรื่องมากนัก แต่ก็ต้องทำให้เขาระวังตัวมากขึ้น เมื่อได้รู้ว่าใครคือนักข่าวที่ออกข่าวนั้น เขาจึงเริ่มติดตามนักข่าวผู้นั้น

นักข่าวผู้นั้นเป็นผู้หญิง เป็นม่ายมีลูกติด เป็นลูกผู้หญิง และแน่นอน เขาย่องเข้าไปในบ้านของนักข่าวสาวผู้นั้น เห็นเธอกำลังอาบน้ำอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปแล้วพูดว่า ?เธอใช่ไหม ที่กำลังแกะลอยข่าวฆาตกรรมของฉันอยู่? เธอตกใจมาก ?แกเป็นใคร ต้องการอะไร? เธอ ถามกลับ เขาจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมมีดคู่กายเล่มเดิม ทันใดนั้น เธอขว้างขวดน้ำหอม เข้าที่หัวของเขา เลือดไหลเป็นทาง เขาล้มลง นักข่าวสาวก็รีบวิ่งหนีออกจากห้องน้ำ แต่ก็ไม่ทัน เขาวิ่งตามเธอลงไปที่ชั้นล่าง และเขาก็ผลักเธอไปติดกำแพง เขาบีบคอเธอ มืออีกข้างหนึ่งก็ถือมีดอยู่ เขาค่อยๆ เสียบมีดเข้าที่หน้าท้องของเธอ เลือดเธอกออกปาก เธอคือ ศพที่ 11

ทันใดนั้น ก็มีเด็กสาวคนหนึ่ง เดินลงมาเห็นสภาพแม่ของตัวเองนอนจมกองเลือดอยู่ เด็กคนนั้นไม่ร้องส่งเสียง แต่กลับวิ่งขึ้นไปข้างบน เขาทำอะไรไม่ถูก สับสน เพราะเขาไม่เคยฆ่าเด็กเลย เขาไม่อยากฆ่าเด็ก เขาเดินวนไปวนมาอยู่นาน แต่เขาต้องทำ เพราะเด็กเห็นเขาแล้ว เขาเดินขึ้นไปข้างบนพร้อมมีด เห็นเด็กน้อยนั่งขดตัวอยู่มุมห้อง เขาเดินเข้าไปหาเด็ก เขายิ่งไม่อยากทำมากขึ้นไปอีกเมื่อได้เห็นน้ำตาของเด็กน้อย มือของเขาสั่น ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าฆาตกรใจโหด***มเช่นเขา จะต้องพ่ายแพ้เด็กหญิงตัวน้อยๆอย่างนั้นหรือ

?เปล่า? มันไม่เป็นเช่นนั้น เขาเชือดคอเด็กน้อย ตายทั้งน้ำตา เป็น ?ศพที่ 12?

หลังจากที่เขาฆ่าเด็ก เขาก็เก็บตัวเงียบไม่ฆ่าใครอีกเลย และวันหนึ่งเขาก็มาหาผม ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าเขาคือฆาตกร แต่ก็รู้ข่าวที่มีการฆาตกรรมอย่างโหด***ม แต่ไม่รู้ว่าเป็นเขา จนเขาเองนั่นแหละเป็นคนบอกกับผม ว่าเขาคือฆาตกร ?ทุกๆ ศพที่เขาฆ่า เขาบอกกับผม ถึงความรู้สึก และบรรยากาศ? เขาพอใจที่ได้ทำลงไปแต่เมื่อเล่ามาถึงเด็กน้อย เขากลับมีน้ำตา เขาบอกว่ายังจำใบหน้าของเด็กน้อยที่นองไปด้วยน้ำตาได้อยู่ตลอดเวลา แล้วเขาก็กลับไป

หลังจากนั้นสามวัน ผมก็ไปหาเขาที่ห้องพัก ผมหวังว่าเขาจะไม่ฆ่าใครอีก แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น เขาฆ่าคนอีกแล้ว แต่ศพนี้มันเป็นศพสุดท้ายของเขา และเขาก็จะไม่สามารถฆ่าใครได้อีกแล้ว เพราะศพนั้นคือตัวเขาเอง เขาเชือดคอตัวเอง เลือดหยดสุดท้ายที่ไหลจากตัวเขา นองลงสู่พื้นดิน ซึมไปกับความเจ็บปวดของเขา ในมืออีกข้างถือรูปลูกสาวของเขาอยู่ ผมเดาว่าเด็กน้อยที่เขาฆ่า อาจมีหน้าตาเหมือนกับลูกสาวของเขาที่ตายไปนานแล้ว เขาคงเสียใจมาก จึงตัดสินใจทำให้ตัวเองเป็น ศพที่ 13

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น